วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

แจกต้นกล้าฟรี ปี 2562

สถานีเพาะชำกล้าไม้ทุกจังหวัด จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการเพาะพันธุ์กล้าไม้ บริการประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แล้ว ยังเป็นหน่วยงานที่ปฎิบัติหน้าที่เดินตามรอยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ “องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หัว” พ่อหลวงของแผ่นดินอีกด้วย
หลักเกณฑ์ในการขอรับกล้าไม้                                          1.ผู้ขอรับกล้าไม้ต้องยื่นคำขอและมาขอรับกล้าไม้ด้วยตนเอง (ตามแบบคำขอรับกล้าไม้พร้อมหลักฐาน)        
2.ตรวจสอบชนิดไม้ที่ต้องการนำไปปลูกว่ามีชนิดไม้ที่ต้องการหรือไม่                                             
3.ติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ สถานีเพาะชำกล้าไม้ และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่แจกจ่ายกล้าไม้ โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น                                        4.ประชาชนทั่วไปสนใจติดต่อขอรับกล้าไม้ได้รายละไม่เกิน 1,500 ต้น/ปี หากมีโครงการปลูกต้นไม้ที่ไม่มี           
วัตถุประสงค์เพื่อการค้าและมีพื้นที่เป้าหมายชัดเจน สามารถขอรับกล้าไม้ได้มากกว่ารายละ1,500 ต้น/ปี โดยให้ยื่นหนังสือแสดงโครงการ พร้อมหลักฐานประกอบแนบคำขอ   
5.ศาสนสถาน หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชนทั่วไป ขอได้หน่วยงานละไม่เกิน 10,000 ต้น/ปี แต่หากมีโครงการปลูกต้นไม้ที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าและมีพื้นที่เป้าหมายชัดเจน สามารถขอรับกล้าไม้ได้มากกว่ารายละ 10,000 ต้น/ปี โดยให้ยื่นหนังสือแสดงโครงการ
พร้อมหลักฐานประกอบแนบคำขอ
หลักฐานการขอรับกล้าไม้
1.บัตรประชาชน
2.ถ้าเป็นโครงการต้องแนบรายละเอียดโครงการ เอกสารที่ดินและแผนที่สังเขป                                         
การพิจารณา
1.หน่วยงานเพาะชำกล้าไม้ เมื่อได้รับคำขอจะพิจารณาแจกจ่ายกล้าไม้ได้ตามจำนวนที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงจำนวนผู้ยื่นคำขอ ปริมาณกล้าไม้ที่มีอยู่ และจำนวนพื้นที่ปลูกเป็นหลัก
2.เจ้าหน้าที่ผู้ได้รับหนังสือแสดงโครงการจะตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นก่อน หากเป็นโครงการที่สมควรสนับสนุนกล้าไม้ให้พิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับจำนวนกล้าไม้ที่ควรสนับสนุน โดยคำนึงถึงเป้าหมายของโครงการ จำนวนผู้ยื่นโครงการ ปริมาณกล้าไม้ที่มี และจำนวนพื้นที่ปลูกเป็นหลัก   
      หมายเหตุ :
หน่วยงานที่แจกจ่ายกล้าไม้จะมีการติดตามประเมินผลการจ่ายกล้าไม้ดังกล่าว โดยวิธีสุ่มตัวอย่าง โดยแบ่งเป็นกลุ่ม ได้แก่ 50-1,000 กล้า และมากกว่า 1,000 กล้า ขึ้นไป ในแต่ละกลุ่มให้สุ่มตัวอย่างไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 ของผู้มาขอรับกล้าไม้ ตามระเบียบกรมป่าไม้ พ.ศ.2552                                                         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น